Tharae News


สถานที่สำคัญ
เทศบาลตำบลท่าแร่

         หมู่บ้านท่าแร่มีผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมตารางหมากรุก คล้ายกับบ้านเมืองในแถบประเทศตะวันตก มีบ้านเรือนสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่งดงาม เรียงรายสองข้างทางในถนนสายหลักของหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก       
 ในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ของทุกปี ชุมชนท่าแร่จะจัดเทศกาล "แห่ดาว" คริสต์มาสอย่างยิ่งใหญ่ มีการประดับประดาบ้านเรือนด้วยดวงไฟหลากสีสันและตกแต่งด้วย "ดาว" สัญลักษณ์การประสูติของ พระเยซูเจ้า

               อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่  ใช้เป็นที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา แต่เดิมเป็นอาคารไม้ มีหอด้านหน้า 2 หอด้านหลังสุดอีก 1 หอ มีมุขด้านข้าง ๆ ละ 2 มุข จุคนได้ประมาณ 1,000 คน โบสถ์เก่าหลังนี้คาดว่า สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ.1898 - 1900 ต่อมาประมาณ ค.ศ.1992 มีผู้ใจศรัทธาได้ซื้อระฆังใหม่ 3 ใบ ขนาดลดหลั่นกันตามลำดับไปถวายวัด ทางวัดจึงได้ดัดแปลงอาคารที่มีอยู่ ให้ใช้กับระฆัง 3 ใบ โดยตัดหอด้านหน้าทั้ง 2 หลังออก แล้วได้สร้างหอใหม่ตรงกลาง ด้านหน้าวัดเพื่อแขวนระฆัง 3 ใบ กาลเวลาล่วงมาถึง พ.ศ .2521อาคารโบสถ์เก่า ชำรุดทรุดโทรมมาก พระคุณเจ้าเกี้ยน เสมอพิทักษ์ ผู้ เป็นประมุขมิซซังท่าแร่ - หนองแสงในขณะนั้น ได้ปรึกษากับคณะกรรมการวัดและเห็นพ้องต้องกันว่า ควรสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ โดยรื้ออาคารเก่าออก สถาปัตยกรรมอาคาร หลังใหม่เป็นรูปทรงเรือใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนย้ายชาว คริสตังจาก สกลนคร มายังท่าแร่ และเรียกชื่อว่า อาสนมหาวิหารมิคาแอล

“ท่าแร่” หรือ “ท่าแฮ่”ชื่อนี้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในฐานะที่เป็นหมู่บ้านคาทอลิกที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทยเมื่อ ค.ศ.1881 (พ.ศ.2424) คุณพ่อ ยอห์นบัปติสต์ โปรดม และ คุณพ่อซาเวียร์เกโกพระสงฆ์คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส ที่ได้รับหมอบหมายจาก พระสังฆราชหลุยส์ เวย์ ให้มาเผยแพร่ศาสนาที่ภาคอีสานเดินทางมาถึงอุบลราชธานี และตั้งกลุ่มคริสตชนที่บุ่งกะแทว ครั้นถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ.1883 (พ.ศ.2426) คุณพ่อโปรดม และคุณพ่อรองแดล ได้เดินทาง จากอุบลฯ มาถึงนครพนม เป็นครั้งแรกเพื่อสำรวจเส้นทาง สถานการณ์และการดำเนินชีวิตของชาวบ้านสำหรับวาง โครงการแพร่ธรรมในโอกาสต่อไป เมื่อได้ใช้เวลาสำรวจไปถึงหนองคายและเวียงจันทร์เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว คุณพ่อ ทั้งสองได้เดินทางกลับอุบลฯหลังจากฉลองปัสกาในเดือนเมษายน ค.ศ.1884 (พ.ศ.2427) คุณพ่อโปรดม กับคุณพ่อเกโก และครูทัน ครูเณรชาวเวียดนามได้เดินทางจากอุบลฯมานครพนมอีกครั้งหนึ่ง และตั้งกลุ่มคริสตชนที่นั่น เมื่อตั้งกลุ่มคริสตชนที่นครพนมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1884 (พ.ศ.2427) คุณพ่อโปรดมเดินทางไปสกลนครพร้อมกับครูทัน  ตั้งใจจะไปเยี่ยมคริสตชน ที่มาจากประเทศเวียดนามตามที่ได้ยินมา และเปิดศูนย์คาทอลิกที่นั่นหากเป็นไปได้ คุณพ่อได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากคริสตชนชาวเวียดนาม และมีชาวเวียดนามจำนวนหนึ่ง แจ้งความจำนงจะเป็นคริสตชน คุณพ่อจึงได้สร้างที่พักและอยู่กับพวกเขา 1 เดือน ได้ใช้โอกาสนั้น สอน ศาสนาแก่ผู้ที่สนใจ แล้วจึงมอบให้ครูทันดูแล ส่วนคุณพ่อเดินทางกลับนครพนม เดือนสิงหาคม ค.ศ.1884 (พ.ศ.2427)

          คุณพ่อโปรดม เดินทางไปสกลนครอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับ คุณพ่อเกโก ในรายงานประจำปี ค.ศ.1910 (พ.ศ.2453) คุณพ่อโปรดมได้บันทึกไว้ว่าศูนย์คาทอลิกสกลนครเปิดปี ค.ศ.1884 (พ.ศ.2427) นานวันเข้าได้มีหลายคนมาสมัครเป็นคริสตชน ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนามที่ได้รับการปลดปล่อยจากการเกณฑ์แรงงานและคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบ 40 คน ทำให้จำนวนคริสตชน เพิ่มมากขึ้น เป็นความลำบากของคุณพ่อเกโก ในอันที่จะหาที่ดินเพื่อพักอาศัยและทำกินสำหรับคริสตชนเหล่านั้นในตัวเมืองสกลนคร ประกอบกับถูกกลั่นแกล้งไม่หยุดหย่อนจากเจ้าหน้าที่ บางคนจึงได้คิดหาทำเลสำหรับตั้งหมู่บ้านคริสตชนใหม่ ในคืนวันหนึ่ง หลังสมโภชนักบุญทั้งหลาย ค.ศ.1884 (พ.ศ.2427) คุณพ่อเกโกและครูทัน ได้ตัดสินใจย้ายคริสตชน โดยจัดทำแพใหญ่ ทำด้วยเรือเล็กและไม้ไผ่ผูกติดกัน บรรทุกคนและสำภาระลงแพ  ใช้ผ้าห่มและผืนผ้าขึงแทนใบให้ลมผัดไปในทางที่พระเป็นเจ้าทรงประสงค์ ที่สุดพวกเขาสามารถข้ามไปยังอีกฝากหนึ่ง ของหนองหารอย่างปลอดภัยและตั้งหลักแหล่งที่นั่นคือหมู่บ้านท่าแร่ในปัจจุบัน

         อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ วัดคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดสกลนคร ศูนย์รวมจิตใจของคริสตชนชาวท่าแร่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ได้ฉลองวัดครบรอบ 130 ปี แห่งความเชื่อของชุมชน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา

#####################################

เทศบาลตำบลท่าแร่ © 2006
205 หมู่ 8 ถ.ท่าแร่-ศรีสงคราม อ.เมือง จ.สกลนคร
โทรศัพท์ : 0-4275-1440, โทรสาร : 0-4275-1441
E-mail : Tharae.2011@hotmail.com
webmaster : leoyut.13@hotmail.com & hangman_blue@hotmail.com